รวมเรื่องต้องรู้ ! ก่อนลงทุนทำธุรกิจเปิดโรงงานน้ำดื่ม
ในทุกวันคนเราต้องดื่มน้ำไม่น้อยกว่า 7-8 แก้ว เพื่อช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงเป็นเรื่องปกติที่น้ำจะเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ในทุกครัวเรือน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เข้าถึงน้ำสะอาดได้ยาก ยิ่งมีความต้องการน้ำดื่มเป็นอย่างมาก ซึ่งนับเป็นโอกาสของหลายคนที่สนใจจะเริ่มต้นธุรกิจโรงงานผลิตน้ำดื่มขนาดเล็ก แล้วยังมีเรื่องอะไรที่ผู้ประกอบการควรรู้อีกบ้างในการเปิดโรงงานน้ำดื่มขนาดเล็กและใหญ่ เราจะมาบอกให้ได้รู้กัน
7 เรื่องต้องรู้ ! สำหรับผู้ประกอบการที่จะเปิดโรงงานน้ำดื่มขนาดเล็กและใหญ่
1. ขั้นตอนการขอจัดตั้งโรงงานน้ำดื่ม
ผู้ประกอบการที่จะตั้งโรงงานน้ำดื่มขนาดเล็กและใหญ่ จำเป็นต้องทำการขออนุญาตจัดตั้งโรงงานกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ติดต่อไปยัง อย. ในท้องที่ที่ผู้ประกอบการจะตั้งโรงงาน เพื่อแจ้งความประสงค์ในการผลิตน้ำดื่ม รวมไปถึงเพื่อขอคำแนะนำการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำดื่ม
- ทำการเก็บน้ำดิบ และส่งตัวอย่างน้ำดิบที่จะใช้ในการผลิต ไปให้แก่หน่วยงานที่รับวิเคราะห์คุณภาพน้ำตรวจสอบ เพื่อรับรองว่าน้ำดิบมีคุณภาพที่เหมาะสมสำหรับการนำไปผลิตน้ำดื่มได้
- จัดตั้งโรงงานผลิตน้ำดื่มและวางเครื่องจักรให้เหมาะสมกับขนาดและปริมาณการผลิตของโรงงาน
- ส่งเอกสารเพื่อนัดวันให้ อย. เข้ามาตรวจสอบอาคารสถานที่ผลิต และเก็บตัวอย่างน้ำที่ผ่านกระบวนการกรอกและบรรจุลงขวดพร้อมฉลาก ให้ทางผู้ประกอบการส่งวิเคราะห์ที่ศูนย์ประจำภาค
- หลังจากนั้นให้นำผลวิเคราะห์น้ำที่ได้มา ไปใช้ในการยื่นขอเครื่องหมาย อย.
- เมื่อได้เครื่องหมาย อย. แล้ว ก็สามารถจัดจำหน่ายน้ำดื่มในพื้นที่ต่อไป
2. ความแตกต่างของโรงงานน้ำดื่มขนาดเล็กและขนาดใหญ่
หากเปรียบเทียบความแตกต่างของโรงงานน้ำดื่มขนาดเล็กและขนาดใหญ่ สามารถจำแนกได้ ดังต่อไปนี้
- ขนาดการผลิต
โรงงานขนาดเล็ก มีกำลังการผลิตจำกัด สามารถผลิตได้ประมาณ 1,000 แพ็กต่อวัน
โรงงานขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิตที่มากขึ้น สามารถผลิตน้ำดื่มมากกว่า 5,000 แพ็กต่อวัน
- อุปกรณ์และเครื่องจักรในการผลิต
โรงงานขนาดเล็ก มักเลือกใช้เครื่องจักรในการผลิตที่ไม่ซับซ้อนมาก รวมถึงอุปกรณ์ราคาถูก และเน้นการใช้แรงงานคนเป็นส่วนสำคัญ
โรงงานขนาดใหญ่ มักเลือกใช้เครื่องจักรในการผลิตที่เป็นเทคโนโลยีทันสมัย มีระบบอัตโนมัติ และมีความรวดเร็วในการผลิตมากขึ้น
- การลงทุน
โรงงานขนาดเล็ก ต้องใช้เงินลงทุนไม่มากนัก สามารถเริ่มต้นได้ง่าย
โรงงานขนาดใหญ่ ต้องมีเงินลงทุนจำนวนมหาศาล ทั้งค่าก่อสร้าง เครื่องจักร และอื่น ๆ
3. ข้อดี-ข้อจำกัดของโรงงานน้ำดื่ม
โรงงานน้ำดื่มทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันไป ดังนี้
โรงงานขนาดเล็ก
ข้อดี
- ใช้ต้นทุนการลงทุนไม่สูงมาก เหมาะสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย
- บริหารจัดการได้ง่าย เนื่องจากโครงสร้างองค์กรไม่ซับซ้อน
- สามารถปรับลดปริมาณการผลิตได้อย่างคล่องตัวตามความต้องการของตลาด
- ให้บริการลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง
ข้อจำกัด
มีกำลังการผลิตที่จำกัด ไม่สามารถรองรับความต้องการที่สูงมากได้
ต้องแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิตสูง และทุนมากกว่า
โรงงานขนาดใหญ่
ข้อดี
- มีกำลังการผลิตค่อนข้างสูง สามารถรองรับความต้องการได้มากมาย
- มีเครื่องจักรและอุปกรณ์ทันสมัย ให้ประสิทธิภาพการผลิตสูง
- สามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับประเทศ รวมถึงระดับสากล
ข้อจำกัด
- ต้นทุนการลงทุนค่อนข้างสูง
- มีการบริหารจัดการซับซ้อน เนื่องจากโครงสร้างองค์กรหลายชั้น
- ขาดความยืดหยุ่น ต้องผลิตเพื่อให้ได้ปริมาณและกำไรตามเป้าหมาย
4. เครื่องจักรในโรงงานน้ำดื่ม
ในส่วนของเครื่องจักรที่นิยมใช้ในโรงงานน้ำดื่มขนาดเล็กและขนาดใหญ่ จะมีดังต่อไปนี้
- เครื่องปรับคุณภาพนํ้า
- เครื่องผลิตน้ำดื่ม
- เครื่องกรองน้ำอุตสาหกรรม
- เครื่องล้างภาชนะบรรจุ
- เครื่องบรรจุของเหลว
- เครื่องปิดฝาขวดหรือปิดผนึก
- โต๊ะหรือแท่นบรรจุ ที่เหมาะสมสำหรับขนาดบรรจุที่ต่างกัน
โดยเครื่องจักรที่ใช้ในโรงงานน้ำดื่ม ควรเลือกที่มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง ทั้งในด้านของปริมาณในการบรรจุขวด ความเร็วในการผลิต รวมไปถึงขนาดของขวดที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในระดับครัวเรือนและร้านค้า
5. วัตถุดิบในการผลิตน้ำดื่ม
วัตถุดิบในการผลิตน้ำดื่มจะแตกต่างกันไปตามแต่ละที่ของโรงงานน้ำดื่ม ซึ่งที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด คือ น้ำประปา และน้ำบาดาล
6. กระบวนการผลิตน้ำดื่ม
กรรมวิธีในการผลิตน้ำดื่ม โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนดังนี้
- นำนํ้าประปาหรือนํ้าบาดาลเข้าสู่เครื่องกรองน้ำ และปรับปรุงคุณภาพน้ำ
- นำน้ำผ่านเข้าสู่ระบบฆ่าเชื้อโรค
- แล้วจึงผ่านน้ำเข้าสู่เครื่องบรรจุของเหลว เพื่อบรรจุใส่ภาชนะ และเข้าเครื่องปิดฝาขวด เพื่อเตรียมจัดจำหน่ายต่อไป
7. กลุ่มเป้าหมายและวิธีทำการตลาด
สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและวิธีทำการตลาดของโรงงานน้ำดื่มขนาดเล็กและขนาดใหญ่ จะแตกต่างกันออกไป
โรงงานขนาดเล็ก มักจำหน่ายสินค้าในพื้นที่จำกัด เช่น ชุมชน พื้นที่ใกล้เคียง จึงมีลูกค้าเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งควรทำการตลาดด้วยการขายตรงหน้าร้าน หรือจุดจำหน่าย และส่งเสริมการขายในระดับท้องถิ่น เช่น แจกสินค้าตัวอย่าง ลดราคาพิเศษ เป็นต้น
โรงงานขนาดใหญ่ มุ่งจำหน่ายในระดับจังหวัดหรือประเทศ และมีกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ซึ่งควรวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ซูเปอร์มาร์เกต และห้างสรรพสินค้า รวมถึงควรส่งเสริมการขายด้วยการจัดรายการส่งเสริมการขายระดับประเทศ เช่น ลดราคา แจกของแถม เป็นต้น
เมื่อรู้ถึงปัจจัยสำคัญเหล่านี้แล้ว ก็เริ่มต้นธุรกิจโรงงานน้ำดื่มกันได้เลย ซึ่งสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเครื่องบรรจุของเหลวหรือเครื่องบรรจุอัตโนมัติ ที่ Asia Engineering Pac เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร ยา สี และเคมี คุณภาพยุโรป โดยมีเครื่องบรรจุอัตโนมัติ เครื่องบรรจุของเหลว รวมถึงเครื่องบรรจุภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ ที่มีความทันสมัยและปลอดภัย เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-806 4501 และ 089-769 1417
ข้อมูลอ้างอิง:
- คู่มือการขออนุญาต น้ำบริโภคในภาชนะที่ปิดสนิท น้ำแร่ธรรมชาติ และน้ำแข็ง. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567